Dragonball Evolution-ดราก้อนบอล อีโวลูชั่น เปิดตำนานใหม่ นักสู้กู้โลก
Master Zone3[ฉบับเสียงไทยเท่านั้น]
นักแสดง/Actors :
- Justin Chatwin
- Emmy Rossum
- Jamie Chung
- Chow Yun-Fat (โจวเหวินฟะ)
Video Format :
- Anamorphic Widescreen 16 : 9
- Letterbox
- Widescreen 2.40 : 1
Audio Format :
- Thai 5.1 Dolby Digital
Subtitles :
[NONE]
ดราก้อนบอล อีโวลูชั่น เปิดตำนานใหม่ นักสู้กู้โลก (20th century FOX )
กำหนดฉาย : 12 มีนาคม 2552
แนว : แอ็คชั่น / แฟนตาซี
นำแสดง : จัสติน แช็ทวิน, เอ็มมี่ รอสซั่ม, เจมี่ ชุง, โจวเหวินฟะ, เจมส์ มาร์สเตอร์, ปาร์ค จุนยอง, เอริโกะ ทามูระ, เออร์นี่ ฮัดสัน, แรนดัล ดุค คิม
กำกับ : เจมส์ หว่อง
บทภาพยนตร์ : เบ็น แรมซี่
อำนวยการสร้าง : โจวซิงฉือ หรือ สตีเฟ่น ชอว์
บริหารงานอำนวยการสร้าง : อาคิระ โทริยาม่า
เรื่องย่อ
การผจญภัยของโงคู ที่มีชะตากรรมของโลกเป็นเดิมพัน เริ่มต้นขึ้นอย่างไร้เดียงสา ณ สนามหญ้าหลังบ้านปู่ของเขา ที่ซึ่งโกฮังกำลังสอนเทคนิคการต่อสู้ด้วยศิลปะป้องกันตัวให้กับหนุ่มน้อย วันนั้นเป็นวันคล้ายวันเกิดครบ 18 ปีของโงคู และของขวัญสุดพิเศษที่โกฮังมอบให้กับหลานชายคือ ดราก้อนบอล (Dragonball) ลูกหนึ่ง มันเป็นลูกบอลกลมๆ ลูกเล็กๆ ที่ผิวเกลี้ยงเกลา และขาวแวววาวคล้ายมุก แต่โปร่งแสงและสุกสกาวราวกับมีทางช้างเผือกอยุ่ภายในทำให้ดูราวกับมีมิติ ด้านลึก พร้อมกับดาวสี่ดวงที่ลอยเคว้งอยู่ในลูกบอลด้วย ผู่เล่าว่า ทั่วโลกใบนี้มี ดราก้อนบอล อยู่อีก 6 ลูก เมื่อใดก็ตามที่ดราก้อนบอลทั้ง 7 ลูกมารวมอยู่ด้วยกัน ผู้ที่รวบรวมมันจะได้รับประทานพรให้คำขอใดๆ ก็เป็นจริงขึ้นมาได้ 1 ข้อ
ตำนานดราก้อนบอลเชื่อมโยงเข้ากับภูมิหลังอันลึกลับของโงคู เขาไม่เคยรู้เลยว่า พ่อ-แม่ของเขาคือใคร สอดคล้องเข้ากันกับช่วงที่กำลังจะเกิดสุริยุปราคา ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสัญญาณของวันสิ้นโลก โกฮังสัญญาว่าจะเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้โงคูฟัง ระหว่างรับประทานอาหารเหย็นฉลองวันคล้ายวันเกิดของหลานชายที่ปู่ตั้งใจ เตรียมไว้ฉลองกับหลานชายเป็นพิเศษ
แต่โงคูปฏิเสธที่จะมาร่วมรับประทานอาหารเย็นกับปู่ เพราะตั้งใจจะไปงานปาร์ตี้ที่จีจี้ เพื่อนักเรียนหญิงที่เขามีใจให้กับเธออยู่เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ในระหว่างที่วันรุ่นหนุ่ม-สาวทำความรู้จักกันมากขึ้นอยู่นั้น เหตุการณ์น่าเศร้าสลดก็เกิดขึ้นที่บ้านของเขา เริ่มจากการมาเยือนของพลังแห่งความชั่วร้าย ซึ่งพผลักดันให้ทั้งโงคู, ผู้เฒ่าเต่า, บลูม่า, หยำฉา, และจีจี้ต้องร่วมแก่งแย่งช่วงชิงดราก้อนบอลทั้ง 7 ลูกให้ได้นั่นเอง เดิมพันครั้งนี้ย่อมสูงกว่าครั้งใดๆ เมื่อโงคูต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามที่สุดในโลก เจ้าแห่งพลังมหาศาลที่รู้จักกันในชื่อ คี (Ki) ผู้ครอบครองพละกำลังความแข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล และเขายังจะได้รับรู้ถึงประวัติความเป็นมาของตัวเองที่เหลือเชื่อมากๆ อีกทั้งยังจะได้ล่วงรู้ถึงอนาคตอันเกรียงไกรที่เขาเองก็ไม่เคยนึกเคยฝันว่า จะยิ่งใหญ่ขนาดนั้นมาก่อนเลยด้วย
#################################
รวบรวมเหล่านักแสดงทั้งดาวรุ่งพุ่งแรงและเก๋าวงการมารวมพลังกันอย่างคับคั่ง เริ่มจากพระเอกสุดหล่อ จัสติน แช็ทวิน (Justin Chatwin) ที่เคยรับบทลูกชายของทอม ครู้ซ (Tom Cruise) ซึ่งมีความเป็นตัวของตัวเองสูงใน War of the Worlds อภิมหาสงครามล้างโลก ที่กำกับโดยสตีเว่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) มารับบทเป็น โงคู (Goku) นักสู้จอมพลังมาดฮีโร่ที่พยายามปกป้องโลกจากเหล่าวายร้ายที่ดาหน้ากันเข้ามา หวังครองจักรวาลด้วยการรวบรวม ดราก้อนบอล ทั้งหมดไว้ในมือของตนเองแต่เพียงผู้เดียว
ตามมาด้วยเอ็มมี่ รอสซั่ม (Emmy Rossum จาก The Day After Tomorrow วิกฤติวันสิ้นโลก) รับบทเป็นบลูม่า (Bulma) สาวสวยที่มีเหตุผลส่วนตัวในการมุ่งมั่นเก็บรวบรวม ดราก้อนบอล ซึ่งไม่มีใครล่วงรู้เจตนาของเธอได้
เจมี่ ชุง (Jamie Chung จากซีรี่ย์สุดฮิตเรื่อง Samurai Girl) รับบทเป็นจีจี้ (Chi Chi) นักสู้หญิงสาวที่มีศิลปะป้องกันตัวขั้นเทพจนเป็นที่สนใจของโงคู, และจ้าวตำนานจอเงิน โจวเหวินฟะ (Chow Yun-Fat จาก Crouching Tiger, Hidden Dragon พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก) รับบทเป็นผู้เฒ่าเต่า (Roshi) ปรมาจารย์ชั้นเซียนที่คอยชี้แนะแนวทางให้ โงคู เผชิญหน้ากับเหล่าวายร้ายตัวแล้วตัวเล่า และกอบกู้ปกป้องโลกได้อย่างราบรื่นด้วย
นอกจากนั้นก็ยังได้ เจมส์ มาร์สเตอร์ (James Marsters จากซีรี่ย์ดังเรื่อง Buffy the Vampire Slayer) มารับบทเป็น ราชาปิศาจ พิคโกโร่ (Lord Piccolo) ที่การกลับมาของเขาอาจหมายถึงจุดจบของโลกได้, ปาร์ค จุนยอง หรือจูน ปาร์ค (Joon Park) นักแสดงหนุ่มหล่อจากเกาหลีที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกมารับบทเป็น หยำฉา (Yamcha) "เด็กเลว" เสน่ห์แรง ที่เข้ามาขัดขวางเหล่านักสู้กู้โลก, เอริโกะ (Eriko จากซีรี่ย์ยอดนิยมเรื่อง Heroes) นักแสดงสาวชื่อดังชาวญี่ปุ่นรับบทเป็น มาอิ (Mai) มือสังหารสาวสมุนของพิคโกโร่ (Lord Piccolo), เออร์นี่ ฮัดสัน (Ernie Hudson จาก Ghostbusters บริษัทกำจัดผี) รับบทเป็นอาจารย์นอร์ริส (Sifu Norris) ปรมาจารย์และผู้คอยให้ความช่วยเหลือผู้เฒ่าเต่า, และแรนดัล ดุค คิม (Randall Duk Kim จาก The Matrix Revolutions ปฏิบัติการมนุษย์เหนือโลก) มารับบทโกฮัง (Gohan) ปู่ของโงคู ที่เริ่มสอนศิลปะป้องกันตัวให้กับหลานชายหัวแก้วหัวแหวนมาตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อให้พร้อมรับมือกับภาระกิจกู้โลกที่รอเขาอยู่ในอนาคต
แล้วยังได้ นักแสดงสมทบ ที่ต้องผ่านการฝึกศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวอย่างเข้มข้นอีกมากหน้าหลายตา ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของ 87Eleven บริษัทจัดการนักแสดงคิวบู๊ระดับหัวแถวของวงการบันเทิงที่เคยออกแบบลีลาท่า ทางการต่อสู้และคิวบู๊ในภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่องยิ่งใหญ่แห่งยุคหลายเรื่อง อาทิ The Matrix เพาะพันธุ์มนุษย์เหนือโลก 2199, The Bourne Supremacy สุดยอดเกมล่าจารชน, Mr. & Mrs. Smith นายและนางคู่พิฆาต, และ 300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก มาแล้ว
ภาพยนตร์เรื่อง DRAGONBALL: EVOLUTION ดราก้อนบอล อีโวลูชั่น เปิดตำนานใหม่ นักสู้กู้โลก อำนวยการสร้างโดย โจวซิงฉือ หรือสตีเฟ่น ชอว์ (Stephen Chow) คนบันเทิงที่มีความสามารถหลากหลายทั้งเป็น นักแสดง, ผู้กำกับ, และผู้เขียนบทภาพยนตร์ชื่อดัง ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงจากทั้ง Shaolin Soccer นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่ และ Kung Fu Hustle คนเล็กหมัดเทวดา ซึ่งเป็นผลงานการผสมผสานศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเข้ากับภาพที่สร้างจาก คอมพิวเตอร์ (CGI) และมุขตลกเฮฮาได้อย่างลงตัว
เจมส์ หว่อง (James Wong) เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง DRAGONBALL: EVOLUTION ดราก้อนบอล อีโวลูชั่น เปิดตำนานใหม่ นักสู้กู้โลก หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการบริหารงานอำนวยการสร้างและเขียนบท ซีรี่ย์ดังๆ อย่าง The X-Files, Millennium, และ Space: Above and Beyond ทั้งยังเป็นผู้ร่วมเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ยอดนิยมอย่าง Final Destination 7 ต้องตาย โกงความตาย และ Final Destination 3 โกงความตาย เย้ยความตาย มาแล้ว เบ็น แรมซี่ (Ben Ramsey จาก Love and a Bullet หักกฎฆ่า ฝ่ารักเธอ) เป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์ดัดแปลงจาก Dragonball การ์ตูนสุดฮิตเขียนโดยอาคิระ โทริยาม่า (Akira Toriyama) และตีพิมพ์โดย The Shonen Jump Comics ในเครือ Shueisha แห่งโตเกียว (Tokyo)
ประวัตินักแสดง
จัสติน แช็ทวิน รับบทเป็น โงคู
จัสติน แช็ทวิน เพิ่งจะร่วมแสดงกับซูซาน ซาแรนดอน (Susan Sarandon) กับเอวา แอมเมอร์รี่ (Eva Amurri) ใน Middle of Nowhere ภาพยนตร์แนวรัก-เฮฮาของจอห์น สต๊อคเวล (John Stockwell) ที่ได้รับเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์ Toronto International Film Festival ปี 2008 ด้วย
แช็ทวินเคยร่วมแสดงใน The Invisible คนตายไม่ยอมตาย ประกบกับมาเซีย เกย์ ฮาร์เด็น (Marcia Gay Harden), War of the Worlds อภิมหาสงครามล้างโลก ที่สตีเว่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) นำบทประพันธ์คลาสสิคของเอช จี เวล (H.G. Wells) มาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ฉบับใหม่และให้แช็ทวินได้แสดงกับทอม ครู้ซ (Tom Cruise) กับดาโกต้า แฟนนิ่ง (Dakota Fanning), ภาพยนตร์ค่ายอิสระเรื่อง The Chumscrubber ที่นำแสดงโดยเรล์ฟ ไฟน์ (Ralph Fiennes), เกล็น โคลส (Glenn Close), ริต้า วิลสัน (Rita Wilson), และอัลลิสัน แจนนี่ย์ (Allison Janney), และ Taking Lives สวมรอยฆ่า ที่นำแสดงโดยแองเจลิน่า โจลี่ย์ (Angelina Jolie) และอีธาน ฮอว์ค (Ethan Hawke)
แช็ทวินเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังจากบทนำแสดงในมินิซีรี่ย์ของ USA เรื่อง Traffic ที่กำกับโดยสตีเฟ่น ฮ๊อพกิ้นส์ (Stephen Hopkins) ที่นิตยสาร Newsweek ยกให้เขาเป็น "นักแสดงหนุ่มอนาคตไกล" (actor to watch) รวมทั้งบทบาทการแสดงใน Lost และ Weeds ด้วย
แช็ทวินเป็นบุตรชายในครอบครัวที่มีพ่อเป็นวิศวกร และแม่เป็นศิลปิน เขาเกิดและเติบโตในแวนคูเวอร์ ไอส์แลนด์ (นาไนโม) บริติชโคลัมเบีย (Vancouver Island (Nanaimo), British Columbia)
เอ็มมี่ รอสซั่ม รับบทเป็น บลูม่า
เอ็มมี่ รอสซั่ม เป็นนักแสดงหญิงวัยรุ่นที่มีพรสวรรค์ และนักดนตรีสาวที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วย เธอเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globe® Award) เมื่อปี 2004 จากบทนำแสดงเป็นคริสติน (Christine) ใน The Phantom of the Opera หน้ากากปิศาจ ซึ่งเป็นบทบาทที่ส่งให้เธอคว้ารางวัลนักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (Best Female Breakthrough Performance Award) จาก National Board of Review และรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม (Best Young Actress Award) จาก Broadcast Film Critics Association เมื่อปี 2005 มาครองได้สำเร็จ
รอสซั่มยังนำแสดงในภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่อง Poseidon มหาวิบัติเรือยักษ์, ภาพยนตร์ที่ทำรายได้ถล่มทลายเรื่อง The Day After Tomorrow วิกฤติวันสิ้นโลก, ผลงานดราม่าที่กำกับโดยคลิ้นต์ อีสต์วู้ด (Clint Eastwood) เรื่อง Mystic River ปมเลือดฝังแม่น้ำ, และภาพยนตร์ค่ายอิสระเรื่อง Songcatcher ที่คว้ารางวัล Special Grand Jury Prize สาขา Outstanding Ensemble จากเทศกาลภาพยนตร์ Sundance เมื่อปี 2001 ที่ส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Independent Spirit Award สาขา Best Debut Performance ด้วย ผลงานทางโทรทัศน์ของรอสซั่มก็มีบทรับเชิญใน Law and Order และ The Practice ด้วย
เมื่อปี 2007 รอสซั่มบันทึกเสียง Inside Out ผลงานเพลงอัลบั้มแรกของเธอกับ Geffen Records ที่เธออาศัยน้ำเสียงที่ฝึกฝนมาในแนวเพลงคลาสสิคเป็นหลัก เธอยังเขียนเนื้อร้องและบันทึกเสียงผลงานเพลงของเธอทั้งหมดเอง ตอนนี้เธอก็เตรียมงานเพลงอัลบั้มที่สองในระหว่างการรับงานแสดงภาพยนตร์ไป พร้อมๆ กันด้วย
รอสซั่มเริ่มรับงานแสดงละครเวทีตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบโดยแสดงหนึ่งในบรรดาดาราเด็กที่มีท่อนร้องกับคณะ Metropolitan Opera ที่ Lincoln Center จนกระทั่งอายุ 12 ขวบเธอก็ฝึกฝนงานแสดงละครเวที และเทคนิคการใช้เสียงแนวคลาสสิค ทั้งยังร่วมแสดงในโอเปร่า 20 เรื่องที่ใช้ภาษาหลากหลายถึง 5 ภาษาด้วย
รอสซั่มเป็นฑูตเยาวชน (Youth Ambassador) ของ Youth AIDS องค์กรนานาชาติที่ให้การศึกษาแก่คนรุ่นใหม่ในกว่า 60 ประเทศถึงการป้องกันและดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ AIDS เธอยังเดินทางไปทั่วโลก เพื่อกระตุ้นการรับรู้ถึงการแพร่กระจายเชื้อผ่านการปราศัยตามโรงเรียน, มหาวิทยาลัย, และการประชุมของรัฐทั้งหลาย
รอสซั่มเกิดในมหานครนิวยอร์ค (New York City) และเข้าศึกษาที่ Spence School เธอจบการศึการะดับมัธยมศึกษาผ่านโครงการ Education Program for Gifted Youth (EPGY) ของ Stanford University และ Center for Talent Development (CTD) ของ Northwestern University ด้วย
เจมี่ ชุง รับบทเป็น จีจี้
เจมี่ ชุงเคยนำแสดงมินิซีรี่ย์ของ ABC Family เรื่อง Samurai Girl ซึ่งบทเฮเว่น (Heaven) ของเธอเป็นเด็กสาวที่ครอบครัวมหาเศรษฐีชุบเลี้ยงอุปถัมภ์ แต่เธอก็พยายามอย่างยิ่งที่จะใช้ชีวิตเยี่ยงเด็กสาวธรรมดา และไม่ละเลยขนบประเพณีซามูไรของบรรพบุรุษ
ล่าสุด ชุง เพิ่งปิดกล้องภาพยนตร์ค่ายอิสระเรื่อง Burning Palms ที่กำกับโดยคริสโตเฟอร์ แลนเด็น (Christopher Landen) ที่ถ่ายทำกันในลอส แองเจลิส (Los Angeles) และถ่ายทอดเรื่องราวทั้งห้าของตัวละครที่ต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมของตนเอง ได้อย่างแสบสันต์ ชุงยังร่วมแสดงกับแคร์รี่ ฟิชเชอร์ (Carrie Fisher) ใน The House on Sorority Row ที่นำผลงานสยองฉบับเมื่อปี 1983 กลับมาสร้างใหม่และจะออกฉายในเดือนตุลาคมปี 2009, The Princess Protection Program ที่สร้างเพื่อออกอากาศทางโทรทัศน์ของ Disney โดยประกบกับเซเลน่า โกเมซ (Selena Gomez), และเดมี่ โลเวโต้ (Demi Lovato) เรื่องฮาๆ ของเจ้าหญิงวัยรุ่นที่ต้องเข้าโครงการคุ้มครองพยาน ระหว่างที่ประเทศเล็กๆ ของเธอถูกรุกราน และจำต้องย้ายไปยังถิ่นทุรกันดานของวิสคอนซิน (Wisconsin) ใจกลางดินแดนย่าน Midwest ที่เธอต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตเยี่ยงหญิงสาววัยรุ่นอเมริกันธรรมดาๆ (normal American teenager) คนหนึ่ง ชุงยังร่วมแสดงใน I Now Pronounce You Chuck and Larry คู่เก๊...วิวาห์ป่าเดียวกัน และซีรี่ย์ดังๆ อย่าง ER, CSI: NY, และ Greek ด้วย
โจวเหวินฟะ รับบทเป็น ผู้เฒ่าเต่า
โจวเหวินฟะเติบโตบนเกาะลามา (Lama Island) ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ แห่งหนึ่งในดินแดนเขตปกครองพิเศษฮ่องกง (Hong Kong) ครอบครัวของโจวเหวินฟะย้ายมายังเกาะใหญ่ตอนเขาอายุ 10 ขวบ พออายุ 17 ปีเขาก็ออกจากโรงเรียนเพื่อหันมาเอาดีทางการแสดง และยังได้รับการแนะนำจากเพื่อนให้สมัครและได้รับการคัดเลือกเข้าเรียนในหลัง สูตรฝึกฝนนักแสดงของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในฮ่องกง หลังจากเรียนอยู่เป็นปี เขาก็ได้รับการเซ็นสัญญาเข้าสังกัดเป็นนักแสดงประจำช่องดังกล่าว และร่วมงานกันมายาวนานถึง 14 ปี
โจวเหวินฟะร่วมแสดงในซีรี่ย์ดังเรื่อง Hotel ที่ออกอากาศยาวนานถึง 128 ตอน และกลายเป็นนักแสดงชายรูปหล่อเสน่ห์แรง และดารานำชายเนื้อหอมของฮ่องกงไปด้วย ชื่อเสียงของโจวเหวินฟะก็โด่งดังยิ่งขึ้นเมื่อนำแสดงในซีรี่ย์เรื่อง The Bund ส่งให้เป็นซูเปอร์สตาร์ชื่อดังทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia)
โจวเหวินฟะขยับขึ้นจอเงินใน The Story of Woo Viet เมื่อแอน ฮุย (Ann Hui) ผู้กำกับภาพยนตร์ทาบทามให้เขาแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต ซึ่งก็เป็นผลงานการแสดงที่นักวิจารณ์ชื่นชมกันทั่วหน้า แม้จะเป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทำกันในฮ่องกง (Hong Kong) ในช่วงที่กระแสผลงานแนวแอ็คชั่นที่เน้นการต่อสู้ป้องกันตัวด้วยกังฟูกำลังมา แรง ส่งให้เส้นทางอาชีพนักแสดงความสามารถหลากหลายของเขาพุ่งทะยานขึ้นทันที โจวเหวินฟะได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมายและยังแสดงในภาพยนตร์ถึง 12 เรื่องในปี 1986 นับเป็นสถิติสูงสุดของนักแสดงชาวฮ่องกง (Hong Kong-based actor) คนนี้เลยทีเดียว
หลังจากนั้นจอห์น วู (John Woo) ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังเจาะจงให้โจวเหวินฟะรับบทมาร์ค (Mark) ในภาพยนตร์เรื่อง A Better Tomorrow โหด เลว ดี ที่สร้างชื่อเสียงให้เขาโด่งดังไปทั่วโลก เขาจึงกลายเป็นนักแสดงชื่อดังคับเอเชีย (Asia) แล้วบุคลิกตัวละครที่สวมเสื้อคลุมยาว, แว่นกันแดด, และควงปืนสั้นเบเร็ตต้า (Berettas) ถล่มยิงแบบไร้ปรานีกลายเป็นภาพที่ผู้ชมติดหูติดตาเป็นที่กล่าวขวัญถึงกันต่อ มาอีกนาน แล้วเขาก็มีผลงานต่อมาอีกหลายเรื่องทั้งในแนวโรแมนติค, ตลกเฮฮา, และดราม่า ก่อนจะได้กลับมาร่วมงานกับ วู ผู้กำกับภาพยนตร์คู่ใจอีกครั้งใน The Killer โหดตัดโหด และ Hard Boiled ตำรวจทะลักเดือด ที่ส่งให้ โจวเหวินฟะ กลายเป็นนักแสดงขวัญใจคนทั้งโลกนั่นเอง
โจวเหวินฟะกลายเป็นนิยามใหม่ของโลกภาพยนตร์ โดยมีเขาเป็นแนวหน้าชูธงภาพยนตร์จากฮ่องกง (Hong Kong) สู่ตลาดโลก ด้วยเรื่องราวที่สะท้อนภาพของผลงานแนวแก็งอันธพาลเฉกเช่นเดียวกับภาพยนตร์ หลายๆ เรื่องที่นำแสดงโดย ฮัมฟรี่ย์ โบการ์ด (Humphrey Bogart) กับเจมส์ แค๊กนี่ย์ (James Cagney) เพียงแต่ได้โจวเหวินฟะรับบทเป็นฮีโร่จำเป็นผู้แสนเศร้า
หลังจากนั้นภาพยนตร์เรื่อง City on Fire เถื่อนตามดวง ของริงโก้ แลม (Ringo Lam) ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวฮ่องกง (Hong Kong) ชื่อดังก็ส่งให้โจวเหวินฟะคว้ารางวัล Hong Kong Film Award สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor Award) และยังเป็นผลงานที่สร้างแรงบันดาลให้ เควนติน ทาแรนติโน่ (Quentin Tarantino) คนบันเทิงระดับโลกสร้างภาพยนตร์เรื่อง Reservoir Dogs ขบวนปล้นไม่ถามชื่อ ด้วย
หลังจากโจวเหวินฟะร่วมแสดงภาพยนตร์เอเชียถึง 68 เรื่อง เขาก็มุ่งหน้าบุกเข้าสู่แวดวงมายาฮอลลีวู้ด (Hollywood) ในปี 1996 ด้วยบทพูดอังกฤษ (English-speaking role) เป็นเรื่องแรกใน The Replacement Killers นักฆ่ากระสุนโลกันต์ ที่กำกับโดยแอนทวน ฟูกัว (Antoine Fuqua) แล้วตามมาด้วย The Corruptor คนคอรัปชั่น ผลงานดราม่าตีแผ่แวดวงตำรวจที่กำกับโดยเจมส์ โฟลี่ย์ (James Foley), รับบทเป็นกษัตริย์ (the King) ใน Anna and the King มหากาพย์ของ Twentieth Century Fox ที่นำแสดงโดยโจดี้ย์ ฟอสเตอร์ (Jodie Foster) แต่ก็ไม่โด่งดังเท่ากับบทนำแสดงใน Crouching Tiger, Hidden Dragon พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก ซึ่งส่งให้เขากลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วสหรัฐอเมริกา (U.S.)
หลังจาก Bulletproof Monk คัมภีร์หยุดกระสุน แล้ว โจวเหวินฟะก็ร่วมแสดงบทเด่นใน Pirates of the Caribbean: At World’s End ผจญภัยล่าโจรสลัดสุดขอบโลก ของ Disney และกลับมาร่วมงานกับแอน ฮุย (Ann Hui) อีกครั้งใน The Postmodern Life of My Aunt แล้วร่วมแสดงใน Curse of the Golden Flower ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง และกลับมาร่วมงานกับจอห์น วู (John Woo) อีกครั้งใน Stranglehold ที่สร้างอ้างอิงจากวิดีโอเกมส์สุดฮิต ผลงานเรื่องถัดไปของโจวเหวินฟะคือ Shanghai ดราม่าลุ้นระทึกที่นำแสดงโดยจอห์น คูแซ็ค (John Cusack)
หนังสือพิมพ์ Los Angeles Times ยกย่องให้โจวเหวินฟะเป็น "นักแสดงที่เท่ที่สุดในโลก" ส่วนนิตยสาร People ยกย่องให้เป็น 1 ใน 50 คนสวย-หล่อที่สุดในโลก เขายังคงใช้ชีวิตอยู่ในฮ่องกง (Hong Kong) ในฐานะ "พี่ใหญ่" (Big Brother) ของแฟนๆ และถ่ายภาพทิวทัศน์ซึ่งวางแผนนำออกจำหน่ายหาเงินช่วยเหล่าองค์กรการกุศลทั้ง ระดับท้องถิ่นและระดับโลกที่เขาเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย
จุน ปาร์ค รับบทเป็น หยำฉา
ปา ร์ค จุนยอง หรือ จุน ปาร์คเป็นทั้งนักแสดง, นักร้อง, และพิธีกรรายการโทรทัศน์ เขายังเคยร่วมแสดงโทรทัศน์นับร้อยรายการในประเทศเกาหลี (Korea) บ้านเกิด ปาร์คเกิดในกรุงโซล (Seoul) แล้วจึงไปเติบโตในแคลิฟอร์เนีย (California) เขาแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด (Hollywood) เรื่องแรกใน Speed Racer ไอ้หนุ่มสปีดเขย่าฟ้า โดยรับบทนักขับรถแข่งยากูซ่า (Yakuza) จอมวายร้าย เขายังเคยร่วมแสดงในมิวสิควิดีโอเพลง If ของ Janet Jackson และเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ของเขาเองที่ชื่อ Non Stop ในเกาหลี (Korea) ด้วย
ปาร์คยังเป็นนักร้องนำและแร็พเพอร์ประจำ G.O.D. หรือ Gross Over Dose วงฮิพ-ฮ๊อพเกาหลีที่มีผลงานตั้งแต่ปี 1999 จนถึงปี 2005 นอกจากจะเคยเปิดการแสดงสดที่ขายบัตรเกลี้ยงแล้วก็ยังมีอัลบั้มที่ขายได้ มากกว่า 6 ล้านแผ่นทั่วเกาหลี (Korea) และเอเชียตะวันออก (Far East)
ปาร์คจบการศึกษาจาก California State University วิทยาเขต Long Beach
เจมส์ มาร์สเตอร์ รับบทเป็น ราชาปิศาจพิคโกโร่
เจมส์ มาร์สเตอร์ เป็นนักแสดงหนุ่มขวัญใจแฟนๆ ทั่วโลกจากบทสไปค์ (Spike) แวมไพร์พั้งค์สไตล์ โกธิคในซีรี่ย์ดัง Buffy the Vampire Slayer หลังจากร่วมแสดง Buffy มานานถึง 6 ชุดปีเขาก็ยังตามไปรับบทเดิมใน Angel ซีรี่ย์ที่ดังไม่แพ้กันด้วย เขาเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลและคว้ามาครองได้สำเร็จมากมาย รวมทั้ง รางวัล Spacey award, รางวัล Saturn Award, รางวัล Cinescape Face of the Future award, รางวัล Golden Satellite Award, และรางวัล Teen Choice Award ด้วย
มาร์สเตอร์ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง P.S. I Love You ป.ล. ผมจะรักคุณตลอดไป ผลงานรักหวานซึ้งที่นำแสดงโดย ฮิลารี่ สแวงค์ (Hilary Swank), เจอราร์ด บัดเลอร์ (Gerard Butler), และแคธี่ เบทส์ (Kathy Bates) เขายังเคยร่วมแสดงในภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง รวมทั้ง The House on Haunted Hill บ้านเฮี้ยนหลอนผวาโลก, Winding Roads, และ Chance and Shadow Puppets ภาพยนตร์แนวลุ้นระทึของค่ายอิสระ
ส่วนผลงานทางโทรทัศน์ มาร์สเตอร์รับบทนำแสดงใน Cool Money ภาพยนตร์ที่สร้างเพื่อออกอากาศทางโทรทัศน์, รับบทแบรนนิแอ็ค (Braniac) วายร้ายจากดาวคริพโตเนี่ยน (Kryptonian villain) สุดมุ่งมั่นใน ซีรี่ย์สุดฮิต Smallville, และเป็นนักแสดงรับเชิญใน The Mountain, Saving Grace, Strange Frequency, Millennium, Andromeda, และ Without a Trace ล่าสุดเขาเพิ่งร่วมแสดงในภาพยนตร์ของ Lifetime เรื่อง The Capture of the Green River Killer ที่มีสองตอนจบด้วย
มาร์สเตอร์เกิดในเมืองทำอุตสาหกรรมป่าไม้ชื่อกรีนวิล (Greenville) ซึ่งอยู่ห่างไกลไปทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย (California) แล้วมาเติบโตในเมืองโมเดสโต้ (Modesto) มาร์สเตอร์รู้แน่ชัดว่าเขาอยากจะเป็นนักแสดงแน่ๆ ตั้งแต่ได้แสดงเป็นอีออร์ (Eeyore) ใน Winnie the Pooh ละครเวทีของโรงเรียนตอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังจากนั้นมาร์สเตอร์ก็ฝึกฝนฝีไม้ลายมือกับคณะละครที่โรงเรียนมัธยม แล้วมาศึกษาต่อที่ Juilliard School สถาบันสอนการแสดงชื่อดังในนิวยอร์ค (New York)
มาร์สเตอร์เริ่มการแสดงละครเวทีเป็นอาชีพในชิคาโก้ (Chicago) โดยร่วมแสดงในละครเวทีดังๆ อย่าง The Tempest และ Red Noses ที่เปิดการแสดง ณ Goodman Theater โรงละครชื่อดังของชิคาโก้ เขายังร่วมก่อตั้งคณะละครเวทีที่เปิดการแสดงและประสบความสำเร็จทั้งในชิคา โก้และซีแอ๊ตเติ้ล (Seattle) ด้วย
ช่วงที่มาร์สเตอร์ไปใช้ชีวิตอยู่ในซีแอ๊ตเติ้ลนั่นเอง ที่ได้รับการทาบทามให้ไปร่วมเป็นนักแสดงรับเชิญใน Northern Exposure ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เขาย้ายมายังลอส แองเจลิส (Los Angeles) และเพียงไม่กี่เดือนเขาก็ได้ฝังเขี้ยวเป็นสไปค์ (Spike) แวมไพร์คนดังใน Buffy the Vampire Slayer แล้ว
มาร์สเตอร์ยังเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จด้วย เขาเป็นนักร้องนำของวง Ghost of the Robot ที่ตระเวนแสดงตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกอยู่ถึง 2 ปีซึ่งขายบัตรหมดเกลี้ยง ก่อนจะยุบวงไปเมื่อปี 2004 ในปีเดียวกันนี้เองที่มาร์สเตอร์หันมาสนใจดนตรีอย่างจริงจังและได้แสดง คอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองเต็มๆ ต่อมาในปี 2005 เขาก็วางแผงอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกที่ชื่อ Civilized Man และตระเวนเปิดการแสดงเดี่ยวสดๆ ทั้งในอังกฤษ (United Kingdom) และออสเตรเลีย (Australia) ซึ่งก็ขายบัตรหมดเกลี้ยงทุกรอบ เขายังคงออกแสดงทั้งทัวร์ระดับโลก และตามคลับในสหรัฐอเมริกา (U.S.) อยู่บ้างยามตารางการแสดงไม่รัดตัวนัก
เอริโกะ ทามูระ รับบทเป็น มาอิ
เอริโกะเป็นที่รู้จักกันในหมู่ผู้ชมอเมริกันจากซีรี่ย์ดัง Heroes ซึ่งเธอเป็นนักแสดงรับเชิญในบทหญิงสาวที่ถูกตาต้องใจฮิโร่ (Hiro) พระเอกของเรื่อง ซึ่งรับบทโดยมาสิ โอกะ (Masi Oka) เธอแสดงภาพยนตร์อเมริกันเรื่องแรกคือ Surf School โดยเป็นหนึ่งในนักแสดงนำหญิงด้วย
เอริโกะเป็นนักแสดงสาวชื่อดังในญี่ปุ่น (Japan) และเคยนำแสดงภาพยนตร์และซีรี่ย์ทางโทรทัศน์กว่า 15 เรื่อง เธอเริ่มแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 13 ปีใน Flowery Afternoon ที่กำกับโดยคาซูกิ โอโมริ (Kazuki Omori) ซึ่งสร้างชื่อในสหรัฐอเมริกาจากภาพยนตร์ Godzilla หลายต่อหลายภาคนั่นเอง
เอริโกะยังแสดงประจำใน Go with the Wild ซีรี่ย์ที่แพร่ภาพช่วงไพรม์ไทม์ทาง Fuji Television หลังจากนั้นก็นำแสดงในมินิซีรี่ย์ My Beloved Ultra Seven ผลงานแนวดรามา-กึ่งสารคดีสะท้อนชีวิตจริงของ ยูริกิ ฮิชิมิ (Yuriki Hishimi) นักแสดงหญิงชื่อดังชาวญี่ปุ่น (Japanese)
หลังจากนั้น เอริโกะก็ยังมาร่วมแสดงใน Hideyoshi ผลงานดราม่าย้อนยุคที่แพร่ภาพเป็นพิเศษ NHK Annual Premiere ซึ่งเธอรับบทเป็นหญิงอับโชคที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ที่ต้องฟันฝ่า อุปสรรคนานัปการจนได้เป็นสตรีชาวญี่ปุ่นคนแรกที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ (convert to Christianity)
นอกจากเอริโกะจะเป็นนักแสดงหญิงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงแล้ว เธอยังเป็นนักร้องที่มีอัลบั้มขายดีถึง 10 ชุดและซิงเกิ้ลแรงๆ มากถึง 15 เพลงที่ออกกับค่าย Toshiba EMI เธอยังเป็นโฆษกให้กับสินค้าระดับโลกหลายๆ ตัว และยังเป็นนางแบบขึ้นปกนิตยสารชั้นนำของญี่ปุ่นมากมายอีกด้วย
เออร์นี่ ฮัดสัน รับบทเป็น อาจารย์นอริส
เออร์นี่ ฮัดสันโด่งดังจากบทวินสตั้น เซ็ดมอร์ (Winston Zeddmore) สมาชิกคนหนึ่งในคณะปราบผีแห่ง Ghostbusters บริษัทกำจัดผี และ Ghostbusters 2 ภาคต่อด้วย เขายังร่วมแสดงใน The Hand That Rocks the Cradle, Miss Congeniality พยัคฆ์สาวนางงามยุกยิก, The Crow อีกาพยายม ซึ่งนำแสดงโดย แบรนด้อน ลี (Brandon Lee) ผู้ล่วงลับ, Spacehunter: Adventures in the Forbidden Zone, และ Basketball Diaries ขอเป็นคนดีไม่มีต่อรอง เขาเป็นนักแสดงรับเชิญในผลงานทางโทรทัศน์หลายเรื่องรวมทั้ง Desperate Housewives, Las Vegas, ER, และ Oz ซีรี่ย์ดังทาง HBO ที่รับบทพัศดีกลีนิส (Warden Glynis)
ฮัดสันเกิดในเมืองเบ็นตั้น ฮาร์เบอร์, รัฐมิชิแกน (Benton Harbor, Michigan) และเรียนการแสดงที่ Wayne State University, Yale School of Drama, และ University of Michigan ด้วย เขารับใช้ชาติเป็นนาวิกโยธิน (U.S. Marines) ก่อนจะย้ายมายังลอส แองเจลิส (Los Angeles) เพื่อร่วมแสดงละครเวทีหลายเรื่อง รวมทั้ง The Great White Hope ด้วย ผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคือ Leadbelly ที่ผู้กำกับกอร์ดอน ปาร์ค (Gordon Parks) บรรจงถ่ายทอดเรื่องราวของนักร้องเพลงแนวบลูส์ระดับตำนาน
แรนดัล ดุค คิม รับบทเป็น โกฮัง
แรนดัล ดุค คิมเป็นนักแสดงละครเวทีผู้ช่ำชอง เขาเกิดในฮอนโนลูลู ฮาวาย (Honolulu, Hawaii) ในครอบครัวเชื้อสายจีน/เกาหลี (Korean/Chinese)
ผลงานการแสดงภาพยนตร์ของแรนดัล ดุค คิมก็มี The Matrix: Reloaded สงครามมนุษย์เหนือโลก ที่เขารับบทช่างทำกุญแจ (The Keymaker), Memoirs of a Geisha นางโลมโลกจารึก, Anna and the King, The Replacement Killers นักฆ่ากระสุนโลกันต์, และ Kung Fu Panda จอมยุทธพลิกล็อค ช็อคยุทธภพ เขายังร่วมแสดงในผลงานทางโทรทัศน์เรื่อง The Lost Empire และเป็นนักแสดงรับเชิญใน 100 Centre St., Cashmere Mafia, และ New Amsterdam คิมยังพากย์เสียงของเจมส์ หว่อง (James Wong) ที่ปะทะบทบาทกับโจวเหวินฟะ (Chow Yun-Fat) ใน Stranglehold วิดีโอเกมส์ชิ้นแรกของจอห์น วู (John Woo), พากย์เสียงของชินเง็น (Shingen) ในวิดีโอเกมส์ Red Ninja, และยังร่วมแสดงเป็น ช่างทำกุญแจ (The Keymaker) ในวิดีโอเกมส์ Enter the Matrix กับ The Matrix: Path of Neo ด้วย
ผลงานการแสดงละครเวที Broadway ของคิมก็มี Flower Drum Song, Golden Child, และ The King and I ที่นำกลับมาแสดงใหม่ เขายังรับบทโอมาร์ เคย์ยาม (Omar Khayyam) ใน Kismet ที่เปิดการแสดง ณ New York City Center Encores! คิมยังคว้ารางวัล off Broadway Obie® award สาขาสืบทอดบทบาทการแสดงได้ยอดเยี่ยม (sustained excellence of performance) เขารับบทเบลาเรียส (Balarius) ใน Cymbeline ที่เปิดการแสดง ณ NY Shakespeare Festival, มาร์ค (Marc) ใน Yaasinia Reza's ART ที่เปิดการแสดง ณ Singapore Repertory Theatre, และโคชิ อาซาโน่ (kochi Asano) ใน A Majority of One ของเลียวนาร์ด สไปเกลกาส (Leonard Spigellgass) ด้วย
คิมเป็นผู้ร่วมก่อตั้งคณะละครเวที American Players Theatre ในเมืองสปริงกรีน วิสคอนซิน (Spring Green, Wisconsin) และเป็นผู้กำกับศิลป์และร่วมแสดงด้วยในผลงานของเชคสเปียร์หลายๆ เรื่อง ปัจจุบันเขาลงหลักปักฐานอยู่ในนวร์ค นิวเจอร์ซี่ (Newark, New Jersey)
#########################
#############################