Angels & Demon : เทวากับซาตาน

Angels & Demons



Video Format :
- Anamorphic Widescreen 16 : 9
- Widescreen 2.40 : 1
- Length : 139 นาที/minutes

Audio Format :
- English 5.1 Dolby Digital
- Thai 5.1 Dolby Digital



Angels & Demons (Sony Pictures)

กำหนดฉาย : 14 พฤษภาคม 2551
นำแสดง : ทอม แฮงค์ส, ยวน แม็คเกรเกอร์, อเยเลท ซูเรอร์, สเตลแลน สการ์สการ์ด, ปิแอร์ฟรานเชสโก้ ฟาวิโน, นิโคลัจ ลี คาส, อาร์มิน มุลเลอร์-สตาห์ล
กำกับ/อำนวยการสร้าง : ไบรอัน เกรเซอร์, รอน โฮเวิร์ด, จอห์น คอลลีย์
บทภาพยนตร์ : อากิวา โกลด์สแมน, เดวิด โคเอปป์


ข้อมูลงานสร้างเบื้องต้น

เมื่อทีมงานภาพยนตร์ที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลกอย่าง "รหัสลับระทึกโลก" (The Da Vinci Code) กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในภาพยนตร์ที่ทุกคนรอคอย " เทวากับซาตาน Angels & Demons" เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจากนิยายขายดีอันดับหนึ่งของ แดน บราวน์ และได้ ทอม แฮงค์ส กลับมารับบท ศาสตราจารย์โรเบิร์ต แลงดอน นักสัญลักษณ์วิทยาจากฮาร์วาร์ด ผู้ที่ได้ค้นพบว่าสมาชิกสมาคมโบราณสามารถที่จะทำได้ทุกอย่าง แม้แต่การฆาตกรรม เพื่อเป้าหมายความสำเร็จของตัวเอง และครั้งนี้ รอน โฮเวิร์ด กลับมานั่งแท่นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งอำนวยการสร้างโดย ไบรอัน เกรเซอร์, รอน โฮเวิร์ด และ จอห์น คอลลีย์ โดย เดวิด โคเอปป์ และ อากิวา โกลด์สแมน มาเขียนบทภาพยนตร์เหมือนเดิม

การค้นพบอันน่าสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้นทำให้วาติกันหันหน้าไปพึ่ง ศาสตราจารย์โรเบิร์ต แลงดอน (ทอม แฮงค์ส) ผู้ซึ่งถอดรหัสที่สร้างประเด็นความขัดแย้งในประวัติศาสตร์ เมื่อ แลงดอน ได้ค้นพบหลักฐานการคืนชีพของภราดรลับในนามของ เดอะ อิลลูมินาติ วิตโตเรีย เวตรา (อเยเลท ซูเรอร์) นักวิทยาศาสตร์สาวสวยลึกลับชาวอิตาเลียน ด้วยการผจญภัยแบบนันสต๊อปตามห้องเก็บสมบัติที่ถูกปิดผนึกไว้, หลุมฝังศพที่อันตราย, วิหารร้าง หรือแม้แต่ใจกลางห้องเก็บสมบัติที่ลึกลับที่สุดในโลก ถึงแม้ แลงดอน และ เวตรา จะติดตามเส้นทางแห่งการรู้แจ้งที่มีอายุยาวนานถึง 400 ปี ซึ่งเป็นความหวังแห่งการอยู่รอดเพียงหนึ่งเดียวของวาติกัน และการตามล่าว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดนี้

โคลัมเบีย พิคเจอร์ส และ อิเมจิน เอนเตอร์เทนเมนต์ ภูมิใจเสนอ ภาพยนตร์ "เทวากับซาตาน Angels & Demons" โดย ไบรอัน เกรเซอร์ และ จอห์น คอลลีย์ นำแสดงโดย ทอม แฮงค์ส, ยวน แม็คเกรเกอร์, อเยเลท ซูเรอร์, สเตลแลน สการ์สการ์ด, ปิแอร์ฟรานเชสโก้ ฟาวิโน, นิโคลัจ ลี คาส และ อาร์มิน มุลเลอร์-สตาห์ล กำกับโดย รอน โฮเวิร์ด บทภาพยนตร์โดย เดวิด โคเอปป์ และ อากิวา โกลด์สแมน อำนวยการสร้างโดย ไบรอัน เกรเซอร์, รอน โฮเวิร์ด และ จอห์น คอลลีย์ สร้างขึ้นจากนิยายเบสต์เซลเลอร์โดย แดน บราวน์ ควบคุมงานสร้างโดย ท็อดด์ ฮัลโลเวลล์ และ แดน บราวน์ ผู้กำกับภาพโดย ซัลวาโทเร โตติโน, เอเอสซี ผู้ออกแบบงานสร้าง อัลลัน คาเมรอน ผู้ลำดับภาพโดย แดน แฮนลีย์, เอ.ซี.อี. และ ไมค์ ฮิล, เอ.ซี.อี. ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายโดย แดเนียล ออร์ลันดิ ผู้ช่วยอำนวยการสร้าง แคธลีน แม็คกิล, หลุยซา เวลิส และ วิลเลียม เอ็ม. คอนเนอร์ ดนตรีโดย ฮันส์ ซิมเมอร์

เทวากับซาตาน Angels & Demons ยังไม่ได้ผ่านการจัดเรตติ้งโดยสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งอเมริกา ภาพยนตร์เรื่องนี้เตรียมเข้าฉายก่อนอเมริกาในวันที่ 14 พฤษภาคม ปี 2009


ใครเป็นใครใน Angels & Demons

เทวากับซาตาน Angels & Demons เริ่มต้นด้วยการมรณภาพขององค์สันตะปาปา และพิธีคอนเคลฟ ซึ่งเป็นกระบวนการที่คณะคาร์ดินัลจะเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ในบรรดาคาร์ดินัลจะมีพวกเปรเฟริติ ซึ่งเป็นพระคาร์ดินัลที่ดูเหมือนจะมีแนวโน้มที่จะได้รับเลือกให้เป็นพระ สันตะปาปามากที่สุด เป็นพิธีที่ทุกอย่างจะถูกปิดเป็นความลับ มีแต่พระคาร์ดินัลเท่านั้นที่เกี่ยวข้องการสื่อสารกับโลกภายนอกเพียงหนึ่ง เดียว คือควันที่จะถูกปล่อยออกมาจากโบสถ์ ควันดำหมายถึงว่าคะแนนเสียงยังไม่มากถึงสองในสาม และควันสีขาว (ซึ่งในภายหลังจะมีการ ตีระฆังด้วย) นั่นหมายถึงว่า คะแนนเสียงมากถึงสองในสาม และมีการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คาเมอร์เลโญ มีหน้าที่เฉพาะภายในนครวาติกัน เขาเป็นผู้ประกาศการมรณภาพของพระสันตะปาปาและทำลายแหวนที่เป็นตราประทับส่วน ตัวขององค์สันตะปาปา ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามของแหวนแห่งชาวประมง โดยคาเมอร์เลโญจะทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองนครวาติกันจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง พระสันตะปาปาองค์ใหม่

ทหารองค์รักษ์สวิส ผู้คุ้มกันปกป้ององค์พระสันตะปา และคณะพระคาร์ดินัลภายในรั้วกำแพงนครวาติกัน นับตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม ปี 1506 เป็นต้นมา ซึ่งพวกเขามองว่าตำแหน่งของพวกเขาไม่ใช่งานแต่เป็นสิ่งที่พวกเขาเกิดมาเพื่อ มัน ผู้ที่จะได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในทหารองครักษ์สวิสได้จะต้องเป็นชายโสดที่ นับถือคาธอลิค อายุระหว่าง 19-30 ปี มีส่วนสูงอย่างน้อย 5 ฟุต 8 นิ้ว จบการศึกษาระดับมัธยมและผ่านการฝึกทหารสวิสเบื้องต้น และเป็นพลเมืองชาวสวิส

หน้าที่ตำรวจทั่วๆ ไป ภายในนครวาติกันเป็นของพวก เจนดาร์มารี พวกเขาจะดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชน การจราจรและการสืบสวนคดีลักพาตัวและคดีฆาตกรรม

ใน เทวากับซาตาน Angels & Demons กลุ่มคนเหล่านี้ถูกบีบให้ต้องเคลื่อนไหวเมื่อพวกอิลลูมินาติลักพาตัวพระคาร์ ดินัลเปรเฟริติไปและขู่ที่จะสังหารพวกเขา จนกระทั้งเกิดการวางระเบิดขึ้นในนครวาติกัน เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเบื้องหลัง อิลลูมินาติ จริงๆ นั้นคือ สมาคมลับที่ถูกก่อตั้งขึ้นในแคว้นบาวาเรียในปี 1776 โดยมีพวกฟรีธิงเกอร์มากถึง 2,000 คนที่อยู่ในแวดวงต่างๆ ทั้งศิลปะ วิทยาศาสตร์และรัฐบาลเป็นสมาชิก ก่อนที่สมาคมนี้จะถูกยุบไปในต้นปลายศตวรรษที่ 18

อย่าง ไรก็ตามหลายคนเชื่อว่าต้นกำเนิดของสมาคมลับนี้มีที่มาที่เก่าแก่กว่านั้น ซึ่งก็คือการที่ อิลลูมินาติ เกิดขึ้นจากความกังวลในเรื่องความคิดเห็นทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ไม่ถูกต้อง ของคริสตจักรในเวลานั้น ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และ ใน เรื่องราวของ Angels & Demons กลุ่มคน "ที่รู้แจ้ง" เหล่านี้ถูกขับไล่ให้ต้องหลบๆ ซ่อนๆ และหายตัวไปเมื่อกว่า 100 ปีที่ผ่านมา โดยในระหว่างนั้นคนกลุ่มนี้ได้กลายมาเป็นกลุ่มที่ต่อต้านวาติกันอย่างเต็ม ตัว โดยเลือกที่จะ "บูชา" ธาตุทั้งสี่ในธรรมชาติ นั่นคือ ปฐวี วาโย เตโช และ อาโป และนี่คือที่มาของเรื่องราวอันตื่นเต้นที่เกิดขึ้นภายในภาพยนตร์เรื่องนี้

มีบางคนที่บอกว่า อิลลูมินาติ ยังคงมีอยู่จริง และบทความ วิดีโอ และเรื่องราวเกี่ยวกับพวกเขายังคงแพร่กระจายอยู่ตามอินเทอร์เน็ต และคิดว่าพวกเขาควบคุมเหตุการณ์ในโลก โดยมีอำนาจในเบื้องสูง และกำลังสร้างระเบียบให้กับโลกใหม่ เพื่อแทนที่รัฐบาลของแต่ละประเทศด้วยรัฐบาลโลกเพียงหนึ่งเดียวโดย "ผู้รู้แจ้ง"


เกี่ยวกับภาพยนตร์

หลังจากที่เข้าไปพัวพันกับการผจญภัยที่ทำให้เขาต้องยืนหยัดต่อกรกับคริสต จักรคาธอลิค และประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2,000 ปี ศาสตราจารย์โรเบิร์ต แลงดอน ก็กลับมาอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง เทวากับซาตาน...Angels & Demons และในครั้งนี้ เขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในใจกลาง นครวาติกัน และพยายามจะช่วยเหลือคริสตจักรคาธอลิคจากศัตรูตัวฉกาจที่เก่าแก่ที่สุดของ มัน นั่นก็คือพวก อิลลูมินาติ

แลงดอน เข้าสู่ เทวากับซาตาน Angels & Demons ในขณะที่เขายังมีความสัมพันธ์ที่ไม่สู้ดีนักกับ วาติกัน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่อง The Da Vinci Code ซึ่ง ทอม แฮงค์ส ผู้กลับมารับบท ศาสตราจารย์โรเบิร์ต แลงดอน อีกครั้ง กล่าวว่า " แน่นอนว่าเขามีความรู้กว้างขวางเกี่ยวกับคริสตจักรคาธอลิครวมไปถึงพิธีกรรม และประวัติศาสตร์ของมัน แต่เขาก็ไม่ได้รับการต้อนรับสักเท่าไหร่ เพราะแก่นของเรื่องจริงๆ ก็คือมันมีการแย่งชิงอำนาจกันภายในนครวาติกัน โดยต้องการป่วนเมืองด้วยการลงคะแนนเลือกตั้งพระสันตะปาปาเป็นตัวอำพราง และถึงแม้ว่าเขาจะมีความหลังที่ไม่ดีกับทางคริสตจักรมาก่อน เขาก็เป็นคนเหมาะสมกับการได้รับมอบหมายให้หยุดยั้งเรื่องนั้นครับ"

สำหรับผู้กำกับ รอน โฮเวิร์ด แล้วไอเดียนั้นทำให้เกิดตัวร้ายที่เพอร์เฟ็กต์และเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสม เนื้อกับ ศาสตราจารย์โรเบิร์ต แลงดอน ซึ่ง "ตอนที่ผมอ่าน Angels & Demons ผมรู้สึกสนใจไอเดียของอิลลูมินาติจริงๆ ครับ" โฮเวิร์ด ยังกล่าวอีกว่า "สมาคมลับที่เก่าแก่ สี่ร้อยปี ซึ่งมีคนอ้างว่ามีคนอย่าง กาลิเลโอ และ เบร์นีนี เป็นสมาชิก เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่ พวกเขาถูกขจัดให้หายไปจริง รึเปล่า พวกเขาจากพวกเราไปแล้วจริงๆ น่ะหรือ มีคนที่เชื่อว่าพวกอิลลูมินาติยังคงอยู่ในฐานะองค์กรหนึ่ง และแอบซ่อนตัวเองอยู่ในสังคม ปัจจุบัน และยังส่งอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของเราในการตัดสินใจทางด้านนโยบายของ รัฐบาล และแนวปฏิบัติการของบริษัทเอกชนด้วยครับ"

ในเรื่องราวของเราพวก อิลลูมินาติ กลับมาแก้แค้นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสี่ร้อยปีก่อน ผู้อำนวยการสร้าง ไบรอัน เกรเซอร์ กล่าวว่า "พวกเขาลักพาตัวพระคาร์ดินัลสี่รูปไป ซึ่งพวกเขาเป็นพระตัวเก็งที่จะได้เป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่ และขู่ที่จะทำลายวาติกันและนครวาติกัน พวกเขาได้เรียก โรเบิร์ต แลงดอน ซึ่งเป็นศัตรูเก่าของพวกเขาในความคิดของพวกเขา เพื่อช่วยเหลือพวกเขาในช่วงวิกฤตินี้ มีแต่แลงดอนเท่านั้นที่สามารถถอดรหัสลึกลับของอิลลูมินาติ ซึ่งถูกเชื่อมโยงเข้ากับสัญลักษณ์โบราณของ ปฐวี วาโย เตโช และ อาโป ได้น่ะครับ"

สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับการผจญภัยของ โรเบิร์ต แลงดอน ก็คือมันกระตุ้นให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นและการค้นคว้าครับ โฮเวิร์ด เล่าต่อ "พอคุณได้อ่านหนังสือหรือดูหนังเรื่องนี้แล้ว คุณก็จะไปห้องสมุดหรือไม่ก็ท่องอินเทอร์เน็ต คุณอยากจะเข้าใจเรื่องของ เบร์นีนี กาลิเลโอ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาและวาติกัน กับโลกศิลปะ กับวิทยาศาสตร์และกับเรื่องลึกลับของอิลลูมินาติ ไม่ว่าคุณจะเชื่อมันหรือไม่ มันก็เป็นเรื่องราวที่น่าทึ่ง และในจินตนาการที่บรรเจิดของ แดน บราวน์ มันก็นำไปสู่เงื่อนงำและความลึกลับที่ตื่นเต้นน่าติดตามครับ"

ผู้อำนวยการสร้าง จอห์น คอลลีย์ กล่าวเสริมว่า " ผมโชคดีที่ได้พบหนังสือของแดนก่อนที่คนอเมริกาส่วนใหญ่จะได้อ่าน The Da Vinci Code และก่อนหน้าที่มันจะกลายเป็นปรากฏการณ์ ผมคิดว่าสิ่งที่เขาสร้างขึ้นด้วย The Da Vinci Code และ Angels & Demons คือ แฟรนไชส์ในยุคของเรา หนังสือทั้งสองเล่มเป็นทริลเลอร์ที่มีจังหวะการดำเนินเรื่องกระชับ และมีตัวเอกที่ฉลาดปราดเปรื่องเป็นจุดศูนย์กลางเรื่อง ไม่น่าสงสัยเลยที่แดนประสบความสำเร็จมากถึงเพียงนี้ครับ"
(Illuminati) องค์กรลับที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตรายที่คุกคามศัตรูที่องค์กรนี้เกลียดชังที่สุด ก็คือคริสตจักรคาธอลิค หลังจากที่ได้รู้ว่าระเบิดเวลาที่พวกอิลลูมินาติวางไว้กำลังนับถอยหลัง แลงดอน ก็ได้เดินทางไปยังกรุงโรม ซึ่งเขาได้ร่วมมือกับ



ทอม แฮงค์ส กล่าวว่า ความเฉลียวฉลาดที่ยอดเยี่ยมและน่าประทับใจของแลงดอนเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจ และน่าสนใจในการสวมบทนี้ และเป็นเสน่ห์สำคัญของโปรเจ็กต์นี้ด้วย "มันเป็นเรื่องวิเศษสุดที่ได้รับบทเป็นคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ที่ คลุมเครือมากๆ แขนงนี้ เขาทุ่มเทชีวิตการทำงานของเขาไปกับการหาความเชื่อมโยงที่คนอื่นมองไม่เห็น เพราะสัญลักษณ์อย่างหนึ่งสามารถนำเสนอมุมมองที่แตกต่างหลากหลายกันได้มากมาย แต่เขาสามารถทำให้สัญลักษณ์นี้เป็นที่เข้าใจได้ มันเป็นการผสมผสานที่น่าหลงใหลครับ ตอนที่เราอยู่ในโรม ทำงานข้างในหรือใกล้ๆ โบราณสถาน ผมไม่ได้แค่อยากรู้ว่ามันสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ผมอยากรู้ว่ามันสร้างขึ้นได้ยังไง ความคิดดั้งเดิมเบื้องหลังมันคืออะไร แล้วเกิดอะไรขึ้นในโรมตอนที่โบสถ์แห่งนั้นๆ ถูกสร้างขึ้น ใครเป็นคนจ่ายเงินค่าสร้าง เมื่อไหร่และทำไมถึงมีสิ่งต่างๆ ถูกเสริมเพิ่มเข้าไป หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผมสนใจในตัวโรเบิร์ต แลงดอนก็เพราะเขามองประวัติศาสตร์ว่ามีหลายชั้น คุณต้องมองข้อเท็จจริงอื่นๆ อีกเก้าข้อ ความคิดเห็นอื่นๆ อีกเก้าอย่าง และความเข้าใจอื่นๆ อีกเก้าอย่างของที่ไหน อะไรและเมื่อไหร่ที่มนุษยชาติคิดสัญลักษณ์เหล่านี้ขึ้นมาในครั้งแรก ก่อนที่คุณจะตามหาความจริงได้น่ะครับ"

แฮงค์ส รู้สึกยินดีที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับผู้กำกับ รอน โฮเวิร์ด อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง Angels & Demons ซึ่งเป็นครั้งที่สี่แล้วหลังจากที่เคยร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง The Da Vinci Code แฮงค์ บอกว่า "แน่นอนว่าไม่ใช่การถ่ายทำต่อหน้าวิหารแพนธีออ นในกรุงโรม แต่เป็นการมุงดูของนักท่องเที่ยวหลายร้อยคน ซึ่งเขาพบตรอกเล็กๆ ด้านหลังสำหรับถ่ายซีนในช่วงบ่าย ตอนที่อากาศร้อนและคนมุงเยอะ นอกเหนือจากนั้น เขาก็ยังมีสมาธิมากจนกระทั่งเขาแทบไม่สังเกตด้วยซ้ำว่ามีคนมุงดูอยู่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเจอช็อตที่ท้าทาย เขาก็จะคิดหาวิธีที่จะถ่ายทำมันและเขาก็มั่นใจว่ามันจะได้ผล รอนได้สั่งสมผลงานที่เหลือเชื่อในฐานะคนทำหนังและยิ่งเขาก้าวหน้าขึ้น เขาก็ยิ่งทำหนังที่สลับซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ และเขาก็ทำให้ทุกอย่างดูง่าย จริงๆ แล้ว ในฐานะคนทำหนัง ตอนนี้เขากล้าบ้าบิ่นมากขึ้นและเสี่ยงมากกว่าแต่ก่อนที่มีสิ่งเดิมพันน้อย กว่า ความมุ่งมั่นของเขา ความปรารถนาของเขาที่จะเปิดหนทางในการทำหนังทำให้เราทั้งสองคนค่อนข้างจะสด ใหม่ครับ"

การผจญภัยของแลงดอนในครั้งนี้ ร่วมด้วยนักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาเลียนจากเซิร์น คือ วิตโตเรีย เวตรา ที่รับบทโดย อเยเลท ซูเรอร์ ซึ่ง ห้องแล็บเซิร์น (กงเซยล์ เออโรเปอัง ปูร์ ลา เรอแชร์ช นูเกลแยร์) หรือศูนย์วิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป เป็นห้องแล็บฟิสิกส์อนุภาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เซิร์นตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ห้องแล็บแห่งนี้เป็นสถานที่เริ่มต้นปฏิบัติการ ลาร์จ เฮดรอน โคลลิเดอร์ ซึ่งเป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่างการถ่ายทำ การทดลองซึ่งเกิดจากแอลเอชซีจะเปลี่ยนแปลงมุมมองที่เรามีต่อจักรวาลที่เรา ใช้ชีวิตอยู่ โดยพวกเขาจะค้นคว้าถึงเหตุผลในการที่ธรรมชาติให้ความสำคัญกับสสารมากกว่าปฏิ สสาร และพวกเขาก็จะตรวจสอบสสารอย่างใกล้ชิดในฐานะที่มันคงอยู่ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ของเวลา ใน Angels & Demons งานของเวตราในเซิร์นเกี่ยวข้องกับกระบอกบรรจุปฏิสสาร ซึ่งถูกขโมยไป และกลายเป็นอาวุธทำลายล้างขั้นสุดยอด ที่คุกคามวาติกันและฐานที่มั่นของคริสตจักรคาธอลิคเองด้วย

ในการเตรียมพร้อมสำหรับบทนี้ ซูเรอร์ไม่เพียงแต่อ่านการทดลองทุกชนิดกับเครื่องเร่งอนุภาคอย่างที่เซิร์น และดูคลิปวิดีโอเกี่ยวกับลาร์จ เฮดรอน โคลลิเดอร์ทาง YouTube แต่เธอยังอ่านหนังสือโดยบิล ไบรสัน เรื่อง A Hort History of Nearly Everything ตามคำแนะนำของ ทอม แฮงค์ส อีกด้วย จริงๆ แล้ว ทีมงานหลายคนติดอกติดใจหนังสือเล่มนี้ และมีการแลกเปลี่ยนบันทึกกันในบางบทเช่น "จักรวาลของไอน์สไตน์", "อะตอมผู้ยิ่งใหญ่" และ "วามคิดเรื่องเอกภาพของดาร์วิน"

ซูเรอร์ พูดถึงตัวละครของเธอว่า "ฉันสนใจในตัววิตโตเรียเพราะเธอเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่มีการศึกษาสูงและ ประกอบอาชีพที่ยังคงมีผู้ชายเป็นผู้นำอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เป็นผู้หญิงที่มีชีวิตชีวาและเธอก็ไม่ได้ละทิ้งความอ่อนไหวของตัวเอง เพื่อหน้าที่การงานค่ะ เธอเป็นคนที่คิดอะไรรอบคอบ และไม่ขุ่นเคืองใจง่ายๆ แน่นอนค่ะว่ารอนไม่อยากให้เธอเป็นผู้หญิงที่คร่ำครวญ ตีโพยตีพาย"


เมื่อไร้พระสันตะปาปา อำนาจการตัดสินใจทุกอย่างในวาติกันตกเป็นของผู้ช่วยส่วนตัวของพระองค์ คาเมอร์เลโญ จนกว่าจะมีการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ใน Angels & Demons บทบาทสำคัญนี้ตกเป็นของ ยวน แม็คเกรเกอร์ นักแสดงหนุ่มไม่เพียงแต่สนใจเรื่องราวนี้เพราะตัวละครที่น่าสนใจนี้เท่านั้น แต่ยังเพราะโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับ รอน โฮเวิร์ด ด้วย แม็คเกรเกอร์ เล่าว่า "ผมเป็นแฟนผลงาน รอน โฮเวิร์ด ผมเคยพบเขาหลายครั้งแล้วในลอนดอนตอนที่เขากำลังถ่ายทำ The Da Vinci Code ซึ่งเราได้พบกันที่ร้านอาหารที่เราชอบไปรับประทานมื้อเที่ยงวันอาทิตย์ มันเป็นเรื่องเยี่ยมจริงๆ ที่ได้ทำงานกับผู้กำกับที่ไม่เพียงแต่ถนัดในเรื่องเทคนิคการทำหนังเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยคุณได้ในแง่ของการแสดงและอารมณ์ของซีนนั้นๆ อีกด้วย ผมคิดว่าการที่ตัวเขาเองเป็นนักแสดงเหมือนกันคือสิ่งที่ทำให้เขาเป็นผู้ กำกับที่เก่งมากๆ น่ะครับ"

ผู้ที่ตัวเปรียบเทียบกับคาเมอร์เลโญภายในโบสถ์ก็คือ คาร์ดินัล สเตราส์ ผู้เงียบขรึมแต่ดูสง่างาม และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในการกำหนดทิศทางการเมืองภายในวาติกัน ที่รับบทโดยนักแสดงผู้คร่ำหวอดในวงการมานานอย่าง อาร์มิน มุลเลอร์-สตาห์ล รู้และเห็นอะไรมากกว่าที่เขาเผยออกมา จริงๆ แล้ว วิธีการที่เงียบขรึม ไม่ออกนอกหน้าของเขาตรงกันกับทัศนคติที่ มุลเลอร์-สตาห์ล มีต่อการแสดง และมักจะคอยสังเกตและมองสิ่งที่เขาต้องทำ เพื่อคิดถึงก้าวต่อไป เขาไม่ค่อยเผยถึงสิ่งที่เขาคิด หรือคนที่เขาสงสัย ซึ่งสำหรับผมแล้ว นั่นคือความลับของการแสดงด้วยเหมือนกัน มุลเลอร์-สตาห์ล บอกว่า "คุณมีใบหน้าหนึ่ง แต่ข้างใต้นั้นคือใบหน้าที่สอง และใบหน้าที่สองนี้เองที่เราจะต้องเนรมิตชีวิตให้มันโดยไม่แสดงมันออกมา ไอเดียก็คือการไม่แสดงทุกอย่าง แต่ในการที่ไม่แสดงออกมา คุณก็ต้องเผยมันออกมาด้วยเพื่อให้ผู้ชมจะต้องเข้าใจมัน แต่มันก็จะต้องไม่โจ่งแจ้งเกินไปด้วยครับ"

ผู้ที่ทำงานร่วมกับคาร์ดินัลสเตราส์ และคุ้มครองเขาและเหล่าคาร์ดินัลคือ ผู้บัญชาการริทช์เตอร์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มทหารองครักษ์สวิส ที่รับบทโดย สเตลแลน สการ์สการ์ด องครักษ์สวิสเป็นผู้ปกป้องนครรัฐวาติกันมาตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม ปี 1506 และริทช์เตอร์ ผู้นำผู้เปราะบางของกองกำลังที่สง่างามและเข้มแข็งนี้ มีคุณสมบัติทุกอย่างของกองกำลังนี้ ทั้งความมุ่งมั่น ความเคารพและความจงรักภักดีอย่างสูงสุดต่อคริสตจักรคาธอลิค แต่เมื่อการสืบสวนดำเนินไปเรื่อยๆ ตัวเขาเองก็อาจกลายมาเป็นผู้ต้องสงสัยได้เช่นกัน


สการ์สการ์ด เล่าว่า "ในฐานะหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของวาติกัน การที่พระคาร์ดินัลสี่รูปถูกลักพาตัวไปและมีระเบิดเวลาซ่อนอยู่ในวาติกัน เป็นงานเข้าของแท้สำหรับริทช์เตอร์ แต่เขาก็เป็นตัวละครที่เยือกเย็น และเขาเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดีมากๆ แถมเป็นคนเคร่งศาสนาด้วย เพียงแต่ในหลายๆ ครั้ง เราไม่รู้ว่าเราสามารถไว้วางใจเขาได้รึเปล่า เขาเองก็พยายามจะคลี่คลายคดีเหมือนกับแลงดอน แต่เขากลับเป็นปฏิปักษ์กับแลงดอนและวิตโตเรียเพราะความรู้สึกไม่ไว้วางใจ ครับ"

นครรัฐวาติกัน นอกเหนือจากการเป็นหัวใจของคริสตจักรคาธอลิคแล้ว ยังเป็นรัฐหนึ่งภายในประเทศอิตาลีด้วย ในขณะที่ทหารองครักษ์สวิสเป็นผู้คุ้มกันพระสันตะปาปาและคณะคาร์ดินัล ตำรวจเจนดาร์มารีก็เป็นผู้ที่ดูแลส่วนอื่นๆ ทุกอย่างภายในรั้วกำแพงของนครรัฐวาติกัน เมื่อคาร์ดินัลสี่รูปถูกลักพาตัวไปใน Angels & Demons มันก็เป็นฝันร้ายเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจที่ทำให้ผู้บัญชาการริทช์เตอร์ที่รับ บทโดยสการ์สการ์ด ต้องปะทะกับ สารวัตรเออร์เนสโต้ โอลิเวตตี แห่งเจนดาร์มารี ที่รับบทโดย ปิแอร์ฟรานเชสโก้ นักแสดงชาวอิตาลี ซึ่งโอลิเวตตีนำตัวแลงดอนเข้ามาหลังจากที่มีการประทับตรานักบวช / นักฟิสิกส์ที่เซิร์น ฟาวิโน เล่าว่า "เขาเข้าใจในทันทีว่าเขาไม่ สามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้และเรียกแลงดอน ชายเพียงคนเดียวที่รู้ว่าสัญลักษณ์เหล่านี้หมายถึงอะไร ให้เข้ามา ซึ่งมันก็ทำให้บาดหมางกับริทช์เตอร์ เพราะความหลังที่แลงดอนเคยมีกับวาติกัน แลงดอนเป็นคนที่ริทช์เตอร์ไม่ไว้วางใจเลยซักนิด โอลิเวตตีรู้ว่าริทช์เตอร์เป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจเพราะทหารองครักษ์สวิส เป็นผู้รับผิดชอบในการคุ้มกันพระคาร์ดินัล และการนำแลงดอนเข้ามาเป็นไพ่ไม้ตายเพียงหนึ่งเดียวในการสืบสวนของโอลิเวตตี ครับ"

ธูเร ลินด์ฮาร์ดท์ รับบทเป็น ชาร์ตรองด์ ทหารองครักษ์สวิส เขาตั้งข้อสังเกตว่า "สิ่งที่น่าสนใจก็คือมันไม่ได้เป็นเพียงแต่งานเท่านั้นสำหรับพวกเขา แต่มันเป็นสิ่งที่พวกเขาเกิดมาเพื่อมัน เหมือนการเป็นนักบวชหรือพระน่ะครับ พวกเขาเป็นทหารของพระสันตะปาปา และพวกเขาก็เต็มใจที่จะสละชีวิตเพื่อพระองค์ด้วย"