Boys Over Flower รักใสใส ภาคเกาหลี 13 DVD และแบบประหยัด 5 V2D ซับไทย จบแล้วจ้า และ พากย์ไทย 6 V2D / 9 DVD ค่ะ
###########################
Boys Over Flower รักใสๆ ภาคเกาหลี
มีแบบ 13 DVD จบ และแบบประหยัด 5 V2D จบ ซับไทย และล่าสุด 6 V2D /9 DVD พากย์ไทย มีทั้งหมด 25 ตอนจบ สนุกม๊ากกกก..ค่ะ หุหุ แม่เจ้า..หล่อมากๆๆๆๆค่ะ น่ารักสุดสุด ใครพลาดนะบอกได้คำเดียวค่ะ ว่า น่าเสียดาย เอิ๊กกก..เอิ๊กกกก ไม่ดู จาเสียใจจ้าา...พี่น้องงงง.....
ประเภท โรแมนติกดราม่า
นักแสดง
คูเฮซอน รับบทเป็น กึมจันดี
จุนเปียว รับบทโดย ลีมินโฮ
ยุนจีโฮ รับบทโดย คิมฮยอนจุง
โซอีจัง รับบทโดย คิมบอม
อูบิน รับบทโดย คิมจุน
คูเฮซอน รับบทเป็น กึมจันดี
เธอเคยเล่นละครซิทคอมมาแล้ว 5 เรื่อง และเล่นภาพยนตร์มาแล้วอีก 2-3 เรื่อง
แต่สำหรับเรื่อง Hana Yori Dango นี้เป็นละครวัยรุ่นเรื่องแรกของเธอ
"ละครที่ชั้นเล่นมาทั้งหมดเป็นละครย้อนยุค เพราะงั้นตอนนี้ชั้นรู้สึกคุ้นเคยกับการแสดงละครย้อนยุคมากกว่า แต่หลังจากที่ได้เข้ามาแคสในละครวัยรุ่นเรื่องนี้ ชั้นก็รู้สึกว่าสามารถควบคุมการแสดงของตัวเองให้มีความหลากหลายมากขึ้น"
"ชั้นไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับละครเรื่องนี้มาก่อน แต่เมื่อประมาณปีที่แล้วมีแฟนๆเข้ามาถามชั้นเกี่ยวกับเรื่องการทดสอบบทละครเรื่องนี้ ดังนั้นชั้นจึงไปสอบถาม และได้ยินมาว่าจะมีการจัดการถ่ายทำขึ้นจริงๆชั้นเคยคิดว่าจะมาเข้าร่วมละครเรื่องนี้ดีรึเปล่า เพราะชั้นได้ปรับปรุงบุคลิกและภาพลักษณ์ของชั้นให้เข้ากับละครย้อนยุคและชั้นก็รู้สึกกังวลที่จะกลับไปใช้ภาพลักษณ์ทอมบอย ห้าวๆเหมือนตอนที่เดบิ้วต์แต่ชั้นคิดว่าถ้าชั้นไม่เข้าร่วมในละครนี้ อาจจะไม่มีโอกาสอีกในอนาคต ดังนั้นชั้นจึงตัดสินใจเข้าร่วม"อย่ามาเล่นตลกกับชั้น เพราะชั้นเป็นพี่สาวนะ
การถ่ายทำเป็นไปอย่างสนุกสนานและทำให้นึกถึงเรื่อง Nonstop5 (ที่เป็นละครตลก ที่มี MCม่ง ,HaHa,, Jan Geun Seok, Han Ye Sul,,Tablo etc.)
"มันสนุกที่ได้ใส่ชุดนักเรียนอีก ชั้นชอบชุดนักเรียนมากๆ หลังจากที่การถ่ายทำจบ ชั้นจะขอชุดนักเรียนจากทีมงาน เพราะว่ามันอาจจะเป็นชุดนักเรียนชุดสุดท้ายที่ชั้นจะได้ใส่
เพราะงั้นชั้นอยากจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก"
"F4 น่ารักแล้วก็เฟรนลี่มากๆ ชั้นเป็นคนประเภทที่ไม่ค่อยสนิทกับใครก่อนเพราะชั้นขี้อาย เพราะงั้นชั้นจึงรู้สึกขอบคุณพวกเค้ามากๆที่กล้าหาญกว่าชั้น แต่ชั้นไม่ค่อยชอบเวลาที่พวกเค้าเรียกชั้นว่า นูน่า ต่อหน้าคนอื่น ชั้นรู้สึกประหลาดใจมากที่มินโฮบอกว่าเค้าอายุน้อยกว่าชั้น 3 ปี" (ขำ)
"จันดีเป็นคนที่ ไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง เธอเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงและมีพลังของผู้หญิงเยอะมากจันดีทะเลาะกับคนที่มาชอบเธอและก็จบลงที่ว่าเธอหลงรักจุนเปียว (เค้าใช้ว่าจุนพโย ดูดีกว่ามะ)จีโฮเป็นคนที่จริงๆแล้วจันดีไม่ได้ต้องการ แต่เป็นคนบางคนที่เธอคาดหวังไว้ จีโฮเป็นคนที่จันดีต้องการจะปกป้องและต้องแรกเธอเข้าใจผิดว่ามันเป็นความรักบางทีนั่นเป็นข้อแตกต่างที่จันดีเห็นระหว่างความรักที่ให้จุนพโยและจีโฮ"
จุนเปียว รับบทโดย ลีมินโฮ
ในโลกของจุนเปียว ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เค้าเกิดมาเป็นหนึ่งใน 30 ตระกูลที่รวยที่สุดของโลก
เป็นลูกชายคนเดียวของบริษัทยักษ์ใหญ่ และเค้ายังใช้ชีวิตในแบบที่เค้าต้องการและได้ทุกอย่างที่เค้าอยากได้เสมอ เค้าเป็นคนที่ไม่เคยต้องรู้ว่าความผิดหวังและความยากลำบากคืออะไร
" ตอนที่ผมไปออดิชั่นบทนี้ ผมถึงขนาดดัดผมไปด้วย ผมอยากที่จะแสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ของผม"
"ตอนที่ผมได้รับเลือก ผมรู้สึกว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะขวางผมได้ [PUHAHAH]
ผมก็เริ่มที่จะคิดว่าจะทำยังไงให้ตัวเองเป็นหนุ่มไฮโซเต็มตัว หลังจากที่ได้บทเมื่อเดือน 8ที่ผ่านมาจุนเปียวเป็นคนที่สามารถจะทำทุกอย่างได้ยกเว้นการว่ายน้ำ เค้าสามารถขี่ม้า เล่นกอล์ฟ สควอซ์และเปียโน ผมต้องเรียนทั้งหมด และผมต้องดัดผมถึง 4ครั้งเพื่อที่จะให้ได้แบบที่ต้องการ
จุนเปียวเป็นคนน่ากลัว นิสัยรุนแรง และมีเสน่ห์ แต่เมื่อเค้าพบนางเอก จุนเปียวจะกลายเป็นเหมือนมนุษย์ทั่วไปมากขึ้น ผมคิดว่าถึงแม้จะเป็นผู้ชายก็ยังมองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ (ขำ)
Q : คุณไม่คิดว่าความสูง 185ซม นี่มันสูงไปหน่อยเหรอ?
A (มินโฮ) : จุนเปียวควรจะมีความสูง 185ซม!! (ขำ)
ถึงแม้ว่าเค้า(จุนเปียว)จะเป็นคนหยาบคาย แต่ท่าทางและออร่าของเค้าคือสิ่งที่ผมต้องโชว์ออกมาทางละครผู้กำกับคอยบอกพวกเราตลอดว่าต้องแสดงท่าทางยังไงให้ออกมาดี
ก่อนที่จะถ่ายทำ ผมค่อนข้างกังวลและรู้สึกกดดันที่จะรับบทนี้ แต่วันที่ถ่ายทำ
มันน่าประหลาดที่ความรู้สึกเหล่านั้นมันหายไปหมด และผมรู้สึกรีแลกซ์มากขึ้น
ยุนจีโฮ รับบทโดย คิมฮยอนจุง
ผมไม่เคยสังเกตตัวเอง แต่สำหรับละครเรื่องนี้ที่ผมได้ลองกลับมาสังเกตตัวเอง
ละครเรื่องนี้เป็นการ์ตูนเรื่องแรกที่ผมอ่าน ตอนที่ผมเข้ามาออดิชั่นกับทาง group 8
ผมอยากจะกลับไปยืมหนังสือจากร้านเช่าการ์ตูนมาอ่าน แต่ผมก็อาย มันน่าอายที่จะเดินเข้า
ไปในร้านแล้วไปในชั้นหนังสือแนววัยรุ่น ดังนั้นผมเลยบอกให้ผู้จัดการของผมไปที่
ร้านหนังสือที่ชื่อ ChunGaeChun เพื่อที่จะไปซื้อหนังสือทั้งชุดกลับมาอ่านที่บ้าน
ตอนนี้หนังสือที่ซื้อมากระจัดกระจายเต็มบ้านไปหมด เพราะว่าผมอ่านแล้วอ่านอีกเพื่อที่
จะเข้าใจถึงบทที่ได้รับผมรู้สึกขนลุกและก็ยังรู้สึกแปลกๆ ที่จะต้องพูดตามคำพูดเลี่ยนๆในบทที่ได้รับแต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาเพราะว่าคนดูจะได้เห็นผมที่เล่นในบทยุนจีโฮ
ซึ่งมีภาพลักษณ์เป็นหนุ่มโรแมนติก และผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้คนดูผิดหวัง
จากบทที่ได้รับเป็นลูกเศรษฐี จีโฮเป็นชายหนุ่มที่สุดแสนจะเพอร์เฟคไปซะทุกเรื่อง
"เพราะงั้นตอนนี้ผมกำลังฝึกจับตะเกียบอย่างถูกต้อง"
ตอนแรกมันเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดมากๆที่ต้องมาเจอหน้าเมมเบอร์คนอื่นใน F4
แต่หลังจากที่เราจัดปาร์ตี้โซจู แล้วเราก็ดื่มกันไปนิดหน่อย เราก็ค่อยๆสนิทกันมากขึ้น
แล้วก็ปล่อยความกังวลและความกดดันทุกอย่างไปในคืนนั้น ผมโทรหาคิมบอมเพื่อ
ไปเล่นพูลในวันที่ว่างๆ และมันก็ง่ายขึ้นมากที่จะแสดงละครด้วยกันเพราะว่าตอนนี้
เราสนิทกันมากขึ้น.. ตอนนี้ผมจึงอยากจะกลับไปถ่ายฉากที่เราถ่ายกันวันแรกใหม่
ตอนที่ผมบอกเพื่อนว่าพรมจะมาแคสละครเรื่องนี้ เพื่อนๆก็แค่บอกว่า "ให้ผมทำตัวเหมือนที่ผมทำปกติ"ฮยอนจุงได้บทที่ตรงกับคาแรกเตอร์ โดยบทของยุนจีโฮค่อนข้างจะ 4D เหมือนตัวเค้าเอง
" ผมเป็นคนขี้อายเหมือนกัน เพราะงั้น 80% ของนิสัยผมค่อนข้างจะเหมือนในบทที่ได้
แต่ว่ายุนจีโฮจะอ่อนโยน มีความเด็ดขาดและซึ่งทำให้ดูมีอำนาจมากกว่า..
ในบทผมต้องชอบที่จะออกไปปาร์ตี้ตามที่ผู้ชายชอบไป เพราะงั้นผมจะฝึกให้มากกว่านี้อีกนิด"
(อันนี้เรียกร้องอยากฝึกเองป่าววะ)
"ผมเล่นกีตาร์ได้ เพราะงั้นผมค่อนข้างจะคุ้นเคยกับการใช้มือซ้ายในการจับคอร์ด
แต่มันยากตรงที่ต้องควบคุมไม้ที่ใช้สีไวโอลิน แต่ว่าตอนนี้ผมสามารถเล่นเพลง
Happy Birthday ด้วยไวโอลินได้แล้ว "
โซอีจัง รับบทโดย คิมบอม
บอกตรงๆเลยว่าผมรู้สึกกดดันที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของ F4 มันคงเป็นการโกหกถ้าจะบอกว่าผมไม่รู้สึกกดดันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ผมพยายามอย่างมาก ดังนั้นผมหวังว่าจะทำได้ดีในละคร
เพื่อที่จะทำให้ละครเป็นที่ยอมรับของคนดูในเกาหลี ผมจะได้รับบทเป็นลูกชายของศิลปินทำเซรามิกชื่อดังและเป็นเจ้าของพิพิธพันธ์ในเกาหลี โดยคนทั่วไปจะรู้จักผมตั้งแต่อายุ 16 ในฐานะของลูกชายคนทำเซรามิชื่อดังที่ ยูเนสโกเลือกให้เป็นคนที่มีพรสวรรค์ บทของผมที่ได้รับเป็นบทเพลย์บอย แต่ลึกๆแล้วบทนี้เป็นบทที่เจ็บปวดเค้าเคยเจ็บปวดจากความรักครั้งแรกในอดีต
และยังมีความเศร้าที่เกิดกับครอบครัวของเค้า
"ผมเคยรับบทเป็นเด็กวัยรุ่นในละครเรื่อง East of Eden และตอนนี้ผมกำลังได้รับบทที่โตขึ้น
คือเป็นเพลย์บอยซึ่งต่างจากบทที่ผมได้รับในละครเรื่องที่แล้ว"
"มันสำคัญมากที่จะจดจ่อไปที่คาแรกเตอร์ของบทที่ได้รับ และแสดงออกมาให้สมบทบาทมากที่สุดไม่ว่าจะอ่านบทสองครั้งหรือร้อยครั้ง แต่ทุกครั้งที่อ่านบทมันเหมือนจะเปลี่ยนไปทุกครั้ง
ดังนั้นถ้าผมเข้าใจบทได้มากที่สุด ผมคิดว่าผมจะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และมองจากมุมมองของบทนี้เวลาถ่ายทำได้นั่นเป็นจุดมุ่งหมายของผม"
ในบทของโซอีจังเป็นคนที่ค่อนข้างจุกจิก ช่างเลือก และรู้ว่าจะทำยังไงให้เค้าดูสมบูรณ์แบบ และมีภาพลักษณ์ที่ดี ในระหว่างการถ่ายทำคิมบอมสนใจในขั้นตอนของการถ่ายทำและการเลือกเครื่องแต่งกายให้ F4 ผมคือ โซอีจัง แน่นอนผมต้องแสดงเป็นตัวเค้า โซอีจังคนที่มั่นใจว่าความเห็นของเค้ามีคนฟังและสนใจตลอดเวลา (ขำ)
อูบิน รับบทโดย คิมจุน
ผมไม่ค่อยสนใจในการอ่านการ์ตูน แต่ผมก็อ่านเรื่องนี้เพื่อที่จะมารับบทนี้
ผมรู้สึกประหลาดในที่ได้รับเรื่องให้มารับบทนี้ บริษัทของผมบอกให้ผมมาออดิชั่นดังนั้นผมจึงมาแต่ผมไม่รู้มาก่อนว่ามันเป็นเรื่องนี้ จนกระทั่งผมเข้าไปออดิชั่น ดังนั้นผมจึงไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้เลือกให้เล่นบทนี้ผมแค่คิดว่านี่เป็นการออดิชั่นครั้งแรก ดังนั้นผมก็แค่ทำตามที่พวกเค้าบอกให้ทำ (ขำ)แต่ผมไม่อยากให้คนดูหรือผู้กำกับคิดว่าทำไมพวกเราถึงเลือกเค้ามา ดังนั้นผมถึงพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อคนดูเพราะผมไม่อยากให้พวกเค้าผิดหวังในตัวผม และแฟนๆที่คาดหวังกับละครเรื่องนี้T-Max คือวงของคิมจุนซึ่งเค้าเป็นน้องเล็กที่สุด แต่สำหรับละครเรื่องนี้ จุนคือคนที่แก่ที่สุด
" สมาชิกในวงของผมมารู้กันที่หลังว่าผมได้รับเลือกให้เล่นในละครหลังจากที่มีการประกาศ
อย่างเป็นทางการถึงคนที่ได้รับเลือกให้เล่นเป็น F4 พวกเค้าบอกว่าผมเป็นคนทรยศเพราะไม่บอกให้พวกเค้ารู้ตั้งแต่แรกแต่ผมต้องการเก็บเป็นความลับเพราะว่าผมรู้สึกกดดันและกลัว"
"ผมรักที่จะเป็นนักร้องและอยากที่จะเป็นนักแสดง ผมไม่สามารถเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งได้
ทั้งสองอย่างมันแตกต่างกันและมีความเป็นเอกลักษณ์ของมัน และผมต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งของมัน"
"ในสมาชิก F4 ผมแก่ที่สุด มันน่าอึดอัดเพราะว่าผมเป็นน้องเล็กสุดมาตลอด แต่เด็กๆ (F4 ที่เหลือ)ก็เป็นคนดี เชื่อฟังผม พวกเค้าน่ารักแล้วก็ช่วยผมมากๆ ผมขี้อายมากๆแต่ถ้าผมรู้จักคนๆนั้นดีแล้ว ผมก็จะสนิทสนมด้วยเต็มที่"
" ในละคร ผมได้รับบทเป็นเพลย์บอย และนั่นก็เป็นความท้าทายอย่างมาก เพราะว่าเวลาที่ผมสนใจผู้หญิงผมไม่สามารถจะเข้าไปคุยกับเธอแบบปกติได้ ดังนั้นมันจะจบลงตรงที่ผมเลือกที่จะไม่สนใจเธอบางทีผมน่าจะอินกับบทมากๆและก็เริ่มมีข่าวลือพวกเรื่องอื้อฉาวบ้าง (ขำ)"